ส่วนที่ 1 : เงื่อนไขการสมัครสมาชิกของห้างเพชรทองออโรร่า
ส่วนที่ 2 : สิทธิพิเศษจากการเป็นสมาชิก
ส่วนที่ 3 : การยินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกห้างเพชรทองออโรร่า
บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”)ตระหนักถึงความสำคัญและหน้าที่ภายใต้ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 โดยให้ความสำคัญในการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัว และมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้มีความปลอดภัย ซึ่งหลักเกณฑ์นี้จะบังคับใช้ครอบคลุมถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือผู้ใช้บริการต่างๆของบริษัทฯ รวมถึงบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัทฯ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
กรณีบริษัทฯ ได้รับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของลูกค้า หรือนำข้อมูลของลูกค้าออกจากบัตรประจำตัวประชาชนด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตัวตนของลูกค้าที่สมัครใช้บริการ และ/หรือทำธุรกรรมใดๆ กับบริษัทฯ ข้อมูลที่ได้รับจะมีข้อมูลศาสนาด้วย ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวจากลูกค้า ทั้งนี้บริษัทฯ จะกำหนดวิธีการจัดการตามแนวทางปฏิบัติ และเป็นไปตามที่กฎหมายอนุญาต
กรณีบริษัทฯ ได้รับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของลูกค้า หรือนำข้อมูลของลูกค้าออกจากบัตรประจำตัวประชาชนด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตัวตนของลูกค้าที่สมัครใช้บริการ และ/หรือทำธุรกรรมใดๆ กับบริษัทฯ ข้อมูลที่ได้รับจะมีข้อมูลศาสนาด้วย ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวจากลูกค้า ทั้งนี้บริษัทฯ จะกำหนดวิธีการจัดการตามแนวทางปฏิบัติ และเป็นไปตามที่กฎหมายอนุญาต
ฐานข้อมูลของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการจะถูกจัดเก็บไว้หน่วยบันทึกความจำที่มีระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลระดับสูงกรณีการใช้หรือการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯมีข้อกำหนดทางด้านความมั่งคงปลอดภัยสำหรับลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ ก่อนที่จะอนุญาตให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้(Addressing security when dealing with customers)
บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า โดยมีวัตถุประสงค์ภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูล ดังต่อไปนี้
บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากลูกค้ากรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้ขอความยินยอม หรือบริษัทฯ ไม่มีเหตุผลให้ใช้ฐานการประมวลผลข้างต้นเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมมาจากลูกค้าได้
กรณีบริษัทฯ จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าจะเป็นนิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดา ภายใต้ขอบเขตที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ หรือการให้บริการอันเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการเท่านั้น โดยบริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลแก่
บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปยังบริษัทในเครือเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศ ส่งหรือโอนข้อมูลไปยังผู้รับข้อมูลอื่น เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อจัดเก็บไว้บน Server หรือ Cloud ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะพิจารณาให้มั่นใจได้ว่าประเทศปลายทางนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามที่กฎหมายกำหนด
บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไว้ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อการใช้ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ และเพื่อการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย และการกำกับดูแล เช่น กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ที่ให้บริษัทฯ จัดเก็บข้อมูลของลูกค้าไว้เป็นเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ลูกค้าสิ้นสุดสัญญากับบริษัทฯ เว้นแต่บริษัทฯ ใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรืออยู่ระหว่างกระบวนการตามกฎหมาย จนกว่าคดีจะถึงที่สุด ทั้งนี้หากบริษัทฯ ไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอีกต่อไป บริษัทฯ จะลบข้อมูลนั้นออกจากระบบ และ/หรือดำเนินการให้ข้อมูลนั้นกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถบ่งชี้ตัวบุคคล เพื่อที่ลูกค้าจะไม่สามารถถูกบ่งชี้ตัวตนจากข้อมูลนั้นได้อีกต่อไป ภายใต้ภาระหน้าที่ดำรงข้อมูลไว้ตามกฎหมาย
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทฯ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยมิชอบ และบริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะตามความจำเป็น และเหมาะสม นอกจากนี้ผู้บริหาร พนักงาน ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทฯ กำหนด
สิทธิตามกฎหมายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ซึ่งลูกค้าอาจขอใช้สิทธิกับบริษัทฯ ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดและกระบวนการจัดการสิทธิของบริษัทฯ ได้ดังนี้
หากลูกค้าได้ให้ความยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ลูกค้ามีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าอยู่กับบริษัทฯ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ลูกค้าอยู่ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของลูกค้าอาจส่งผลกระทบต่อลูกค้าจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการต่างๆ เช่น ลูกค้าจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์จากการซื้อผลิตภัณฑ์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ลูกค้า เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของลูกค้าจึงควรศึกษา และสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม
ลูกค้ามีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับลูกค้า รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ลูกค้าไม่ได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัทฯ
ลูกค้ามีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่สามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
ลูกค้ามีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้านั้นทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ โดยไม่เกินขอบเขตที่ลูกค้าสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทฯ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของลูกค้า หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมายตามแต่กรณี นอกจากนี้ลูกค้ายังมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติได้อีกด้วย
ลูกค้ามีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าหรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หากลูกค้าเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อลูกค้าได้ใช้สิทธิขอเพิกถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูล
ลูกค้ามีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าชั่วคราวในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบคำร้องขอใช้สิทธิแก้ไขหรือขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือกรณีที่บริษัทฯ หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามกฎหมาย แต่ลูกค้าขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน
ลูกค้ามีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โดยลูกค้าสามารถปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามขั้นตอนของบริษัทฯ
ลูกค้ามีสิทธิที่จะร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากลูกค้าเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การใช้สิทธิของลูกค้าตามข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทฯ อาจปฏิเสธ หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิของลูกค้าได้ เช่น บริษัทฯ จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือการใช้สิทธินั้นๆ อาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือบริษัทฯ จำเป็นต้องใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว โดยบริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ลูกค้าทราบและหากลูกค้าต้องการใช้สิทธิตามข้างต้น ลูกค้าสามารถยื่นคำขอมายังบริษัทฯ ผ่านช่องทางการสื่อสารของบริษัทฯได้
บริษัทฯ ใช้ข้อมูลบางอย่างของลูกค้าเพื่อทำการตลาดที่ตรงตามความสนใจของลูกค้าเพื่อที่ลูกค้าจะได้รับแจ้งเกี่ยวกับกิจกรรม ข้อเสนอการส่งเสริมการขาย ผลิตภัณฑ์ และบริการที่ลูกค้าอาจมีความสนใจ โดยลูกค้าสามารถแจ้งการยกเลิกการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารดังกล่าวจากทางบริษัทฯ ได้ ผ่านช่องทางการสื่อสารของบริษัทฯ
บริษัทฯ จะทำการพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การคุ้มครองข้อมูลสำหรับลูกค้าเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์นี้ หรือนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯแต่อย่างใด บริษัทฯ จะแจ้งให้ลูกค้าทราบด้วยการประกาศข้อมูลทางช่องทางการสื่อสารของบริษัทฯ
ลูกค้าหรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อบริษัทฯได้ตามช่องทาง ดังนี้
อนึ่ง ก่อนให้ความยินยอมข้าพเจ้าได้อ่านและเข้าใจข้อกำหนดและเงื่อนไขในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งระบุไว้ด้านบนของความยินยอมนี้อย่างชัดเจนแล้ว
สาขา เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์