อ่านต่อ..
สวัสดีค่ะทุกคนกลับมาเจอกับน้องของขวัญกันอีกแล้วน้าา วันนี้น้องของขวัญมีสาระและความรู้เล็กๆ น้อยๆ มาฝากทุกคนค่าา หากใครที่ยังไม่ทราบเรื่องการลงทุน หรือต้องการที่จะเริ่มลงทุน แต่ยังไม่ทราบว่าควรเริ่มจากอะไรดี? หลายคนคงมีคำถามนี้ในใจใช่มั้ยละคะ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะน้องของขวัญมีคำตอบให้หากพร้อมแล้วไปไขข้อข้องใจพร้อมกับน้องของขวัญเลย!
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักทองคำกันก่อนดีกว่าว่า ทองคำคืออะไรกันแน่…นอกจากที่เราเห็นว่ามันสวยดีเวลาโดนแสงแล้วสะท้อนแสงเรืองรองออกมา ซึ่งที่จริงแล้วทองคำก็คืนโลหะชนิดหนึ่ง แต่เป็นโลหะที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวไม่เหมือนใครอยู่หลายประการ
หลายคนอาจไม่ทราบกันใช่มั้ยคะ แต่จากผลสำรวจในปัจจุบันพบว่ามีเพียงประมาณ 250,000 ตันเท่านั้น และเราได้สกัดออกมาแล้วกว่า 200,000 ตัน ส่วนที่เหลืออยู่ต่อรวมไปถึงส่วนที่ยังไม่มีการค้นพบเพิ่ม ก็จะไม่มีมากไปกว่านี้ เพราะโลกของเราไม่มีคุณสมบัติที่สร้างทองคำขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง แต่ทองคำจะสามารถเกิดขึ้นมาได้ต้องอาศัยพลังงานระดับการระเบิดของดวงดาวที่ใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ แล้วเศษซากได้ก่อตัวขึ้นเป็นโลก หรือตกลงมายังโลกกับอุกกาบาต ซึ่งมนุษย์เราเคยมีความพยายามสร้างทองคำมาหลายครั้ง และเคยทำได้สำเร็จจริงๆ หลังสงครามโลกครั้งที่สองด้วยการนำโลหะชนิดอื่นมายิงลำแสงพลังงานสูงเข้าไป แต่ค่าใช้จ่ายนั้นสูงกว่าการขุดทองขึ้นมาเสียอีก
ที่ราคาทองคำมีราคาสูงนั่นก็เพราะ คุณสมบัติอีกอย่างของทองคำคือ หาได้ยาก หาได้ยากในที่นี้นอกจากจะหมายถึงแหล่งแร่ทองคำที่มีอยู่กระจัดกระจาย ยังรวมไปถึงอนุภาคของทองคำที่มีอยู่ทั่วไปหมด แม้แต่ในเลือดของมนุษย์ทุกคนโดยเฉลี่ยจะมีทองคำเจือปนอยู่ราว 0.2 มก. การจะสกัดทองออกมาจากผืนดินซึ่งต่อให้เป็นเหมืองทองก็อาจต้องขุดดินหรือหินขึ้นมา 3 ตันจึงจะสกัดทองคำออกมาได้ 1 กรัม นี่จึงเป็นสาเหตุ ที่ราคาทองคำสูงมาก เพราะต้นทุนแพงมาก
อีกคุณสมบัติที่คนพยามขุดทองขึ้นมานอกจากความสวยงามแล้วก็คือคุณสมบัติของตัวแร่ทองคำนั่นเอง ซึ่งมีความเหนียวอย่างมากจนเราสามารถนำมาตีให้มีความบางเพียง 1 โมเลกุลโดยไม่ฉีกขาดได้อีกด้วย ให้นึกถึงทองคำเปลว แต่มันสามารถถูกทำให้บางกว่านั้นอีกจนเอาไปฉาบบนกระจกเครื่องบินรบหรือหมวกนักบินอวกาศได้ และยังสามารถนำไฟฟ้าได้ดีอีกด้วย จึงมักนำมาเป็นทำเป็นตัวในไฟฟ้าในแผงวงจรหรือไมโครชิปในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือสมาร์ทโฟนที่เราใช้กัน ซึ่งไม่มีแร่ธาตุชนิดไหนทำได้อย่างทองคำ และคุณสมบัติอย่างสุดท้ายที่ทำให้ทองคำมีความโดดเด่นที่สุดคือเป็นแร่ธาตุที่มีความเป็นกลางอย่างมาก แทบไม่ทำปฏิกิริยาใดๆกับสารเคมีส่วนใหญ่ที่เรารู้จักหรือเราจะกินเข้าไปก็ได้ในกรณีที่เป็นทองคำบริสุทธิ์ เพราะทองคำจะไม่ถูกดูดซึมหรือทำปฎิกิริยาอะไรกับร่างกายเรา ทองคำจึงไม่เกิดสนิม ไม่ผุกร่อน นับตั้งแต่วินาทีแรกที่ทองคำเกิดมามันจะเป็นทองตลอดไป ซึ่งคุณสมบัติข้อนี้ดันไปตรงกับความต้องการในการสะสมของมนุษย์ เพราะขณะที่เราใช้ชีวิต ใช้แรงงานในการเก็บเกี่ยวทรัพยากรต่างๆ มาขณะที่ยังมีแรงเพื่อเอาไว้ใช้ในยามที่เราหมดแรง ถ้าเป็นอย่างอื่นมันอาจจะมีการเน่าเสีย หรือเสื่อมสภาพไป นั่นหมายความว่าเราทำงานฟรี แต่ถ้าเราเก็บไว้ในรูปของทองคำ นานแค่ไหนก็ยังเท่าเดิม ทองคำจึงเป็นวัสดุอย่างนึงที่มนุษย์เราใช้เป็นหลักฐานถึงการเก็บหอมรอมริบของเรา มันจึงมีราคา ใครจะมาเอาไปจากเราฟรีๆไม่ได้และคนอื่นก็คงไม่ให้เราฟรีๆ เช่นกัน
เพราะมนุษย์เราได้นำทรัพยากร หรือทรัพย์สมบัติเราสะสมมา จากรุ่นสู่รุ่นไปผูกกับสื่อกลางอย่างเงินตราซึ่งเมื่อก่อนได้ผูกกับทองคำ แม้ตอนนี้จะไม่ได้ผูกกันอย่างเหนียวแน่นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ก็ทำให้ทองคำมีราคา
ในขณะที่ประชากรมนุษย์มีมากขึ้น ขนาดเศรษฐกิจเติบโตขึ้น รัฐบาลต่างๆก็ต้องผลิตเงินออกมาให้คนจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้นแต่สินทรัพย์ที่ใช้เงินซื้ออย่างทองคำมีอยู่เท่าเดิม ราคาจึงสูงขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับเงินตราที่ถูกผลิตเพิ่มเข้าสู่ระบบมากขึ้นซึ่งใช้จับจ่ายใช้สอยได้น้อยลง หรือที่เราเรียกว่าเงินเฟ้อ อ้างอิงจากสถิติของสภาทองคำโลกได้นำทองคำมาเปรียบเทียบกับเงินตราสกุลหลักๆของโลกตั้งแต่ปี 2000 -2020 พบว่าทุกสกุลเงินเสื่อมค่าลงไปมากกว่าครึ่งในช่วงเวลาเพียง 20 ปี
แน่นอนว่าโลกนี้มีสินทรัพย์อื่นที่มีคุณสมบัติในการรักษามูลค่าเช่นเดียวกัน และบางอย่างมีผลตอบแทนเพิ่มให้ด้วยอย่างพันธบัตรรัฐบาล หรือหุ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ทองคำมีมากกว่าทุกสินทรัพย์ที่เราสามารถซื้อง่ายขายคล่องทุกวันนี้ก็คือความปลอดภัย ทองคำจึงเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยให้เรากระจายความเสี่ยงของทรัพย์สมบัติที่เรามีอยู่ได้ และจะมีราคาสูงขึ้นทุกครั้งเมื่อ สังคม เศรษฐกิจ หรือการเมือง ตกอยู่ในช่วงอันตราย
ยกตัวอย่างกรณีธนาคารในสหรัฐล้มละลายเมื่อช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจะบานปลายไปอีกหลายแห่งจนอาจเกิดการล่มสลายทางการเงินครั้งใหญ่ ข่าวนี้เองเป็นประเด็นที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นจนทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งและหุ้นธนาคารโดยเฉพาะในสหรัฐฯ ปรับตัวลงอย่างรุนแรง หรือในช่วงโควิดระบาดเมื่อปี 2020 ในปีนั้นราคาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 28% แซงหน้าสินทรัพย์อื่นทุกชนิด เพราะตอนนั้นทุกคนกลัวกันหมด เศรษฐกิจทั่วโลกต่างซบเซา หรือในประเทศที่เกิดสงคราม ความไม่สงบ อย่างประเทศเพื่อนบ้านเราอาจจะได้เห็นข่าวมีการลักลอบขนทองคำข้ามไปข้ามมาเวลาบ้านเค้าเกิดความวุ่นวายทางการเมือง ซึ่งในประวัติศาสตร์ทองคำก็เป็นสมบัติที่ผู้คนมักพกติดตัวเวลาอพยพหนีจากภัยคุกคามมาโดยตลอด
ย้อนกลับมาในปัจจุบัน ในตำราทางการเงินหรือนักลงทุนชื่อที่ประสบความสำเร็จจำนวนมาก ก็ยังคงเสนอแนะว่าควรมีทองคำติดไว้บ้างสักไม่เกิน 10% เพื่อช่วยรักษาความมั่งคั่งของเราไว้ในช่วงเวลาที่สินทรัพย์อื่นมีมูลค่าลดลง ซึ่งเราอาจจะเพิ่มโอกาสทำกำไรในช่วงนั้นด้วยการขายทองออกเพื่อไปซื้อสินทรัพย์ที่เรามองแล้วว่ามีอนาคตก็ได้
ส่วนคนที่ครอบครองทองคำเอาไว้มากที่สุดโลกก็คือธนาคารกลางในประเทศต่างๆ ส่วนหนึ่งก็เพื่อเป็นหลักประกันกันว่าเงินตราที่ประเทศเหล่านั้นผลิตออกมามีอะไรบางอย่างที่มีมูลค่าผูกเอาไว้อยู่จริงๆ ซึ่งข้อมูลล่าสุดในปี 2022 จะพบว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงเป็นแชมป์ผู้ถือครองทองคำมากที่สุดในโลกอยู่ และหลายประเทศรวมถึงไทยก็ซื้อเพิ่มเช่นกัน
สำหรับทองคำแท่งมาตรฐาน 96.5 ในประเทศไทย จากสถิติราคาย้อนหลัง 20 ปี นับตั้งแต่ปี 2003-2023 ราคาปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 312% หรือถ้าเราซื้อทองทำไว้ตั้งแต่ตอนนั้น จะคิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยถึง 15.6% ต่อปีเลยทีเดียวด้วยความเสี่ยงที่น้อยกว่าสกุลเงินบาทที่เราใช้กันอยู่ซะอีก
ปัจจุบันมี 2 วิธีหลักๆให้เราเป็นเจ้าของทองคำได้
ข้อดีคือ 1.เราเข้าไปเลือกแบบที่เราชอบได้ว่าอยากได้ทองคำแบบไหน รูปพรรณที่ใส่ออกงานได้ หรืออยากลงทุนจริงๆแนะนำว่าเป็นทองคำแท่งจะต้นทุนต่ำกว่าและดูแลรักษารวมไปถึงการขายต่อจะสะดวกกว่าด้วย ที่สำคัญเราอาจได้ส่วนลดบางอย่างในบางช่วงเวลา
ข้อเสียคือ 1.ต้นทุนแฝงจากค่ากำเหน็จ ค่าบล็อก ซึ่งตอนน้องของขวัญได้ไปซื้อทองครั้งแรกก็ไม่รู้เหมือนกัน เห็นราคาหน้าร้านเท่าไหร่ก็กดเงินไปซื้อเท่านั้น ปรากฏว่าคิดค่าบล็อกเพิ่ม การเดินทาง การเก็บรักษาซึ่งเราอาจจะต้องซื้อเซฟมาเก็บหรือเช่าเขา และข้อเสียอีกข้อคือต้องใช้เงินก้อนใหญ่จึงจะซื้อได้ และถ้าซื้อทีละน้อยค่าใช้จ่ายอื่นก็จะยิ่งสูง ที่สำคัญถ้าหายขึ้นมาเราต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง
หลายคนน่าจะคุ้นเคย การซื้อของแบบนี้กันอยู่แล้ว อย่างของ ARR หรือ ออโรร่าออนไลน์ เราจะมีเป็นแพลตฟอร์มที่เข้าใช้งานซื้อขายผ่านอินเทอร์เนตได้ เหมือนบัญชีซื้อขายหุ้นเลยค่า
ข้อดีคือ 1.สะดวกมาก กดซื้อขายเมื่อไหร่ก็ได้ เท่าไหร่ก็ได้ด้วยอย่างของออมทองเรามีจำนวนเงินที่ซื้อได้ขั้นต่ำเพียง 100 บาท เท่านั้นเองก็จะได้ทองคำแท่ง 96.5 จำนวนหนึ่งบันทึกไว้ในบัญชี ซึ่งความสะดวกนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรของเราด้วยเพราะเราส่งคำสั่งได้เกือบ 24 ชั่วโมง ทุกวัน และมีหลักฐานส่งมาทางอีเมล มีอะไรผิดพลาดขึ้นมาใช้เป็นหลักฐานมาทวงได้ ไม่หายแน่นอน
ข้อเสียคือ 1.เนื่องจากมันเป็นเทคโนโลยีซึ่งมีโอกาสระบบขัดข้องบางเวลาได้ และหลายคนอาจจะไม่สบายใจเพราะทองไม่ได้อยู่กับตัว แต่ถ้าเราชั่งน้ำหนักแล้วประโยชน์ที่ได้รับมีมากกว่า ก็เป็นอีกทางเลือกที่สมเหตุสมผลที่จะหันมาใช้ในการลงทุนทองคำค่าา
ก็หมดไปแล้วนะคะกับ การลงทุนทองคำสำหรับผู้เริ่มต้น ควรเริ่มจากอะไรดี! ได้สาระกันแบบจุกๆ ไปเลยใช่ไหมคะ แล้วครั้งหน้าน้องของขวัญจะมีความรู้อะไรมาฝากอีกน้าา.. รอติดตามกันด้วยนะคะ
ช่องทางการสั่งซื้อสินค้า หรือรับชมข่าวสารใหม่ๆ ก่อนใคร
WEBSITE : www.aurora.co.th
FACEBOOK : Aurora Gold and Jewelry
Line Official : @aurorathailand