ในปัจจุบันราคาทองคำมีการผันผวนเป็นอย่างมาก และค่อนข้างมีมูลค่าที่สูงขึ้นจนเคยเหยียบที่ราคาบาทละ 30,000 ก็ผ่านมาแล้ว ทำให้เกิดการแตกตื่นของผู้คนทั่วไปและนักลงทุนทองคำ รวมไปถึงมิจฉาชีพที่เข้ามาฉวยโอกาสจากการที่ราคาทองคำขึ้นสูง ไม่ว่าจะเป็นการนำทองปลอมออกมาขาย หรือแลกเปลี่ยนกับผู้คนที่ไม่มีความชำนาญในการดูทองคำที่แท้จริง ออโรร่าขอแนะนำวิธีการดูทองคำแท้ VS ทองคำปลอม กันค่ะ ว่าจะมีอะไรที่แตกต่างกันบ้างแล้วเราควรจะระวังกันยังไง
วิธีการตรวจสอบทองคำเบื้องต้นด้วยตัวคุณเอง ว่าแท้ หรือ ปลอม
1. การตรวจสอบตราประทับหรือโลโก้ร้านทอง โดยปกติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่งหรือทองคำรูปพรรณจะมีการลงสัญลักษณ์ของร้านหรือแหล่งผลิตที่ชัดเจนไว้ ตามข้อหรือห่วงของทอง เพื่อเป็นการยืนยันจากแหล่งที่มา รวมไปถึงมีการลงตัวเลขบอกความบริสุทธิ์ของทองไว้อีกด้วยเช่นกัน หากสัญลักษณ์ที่มีไม่ชัดเจน ควรหลีกเลี่ยงในการซื้อ-ขายไว้ก่อน เพราะอาจจะเป็นของปลอมได้ค่ะ
2. การตรวจสอบน้ำหนักทอง ทองคำแท้ โดยสมาคมค้าทองคำได้กำหนดน้ำหนักของทองคำแต่ละขนาดไว้ ซึ่งมีน้ำหนักมาตรฐานไว้ดังนี้
- ทองคำครึ่งสลึง น้ำหนักอยู่ที่ 1.89 - 1.9 กรัม
- ทองคำ 1 สลึง น้ำหนักอยู่ที่ 3.79 - 3.8 กรัม
- ทองคำ 2 สลึง น้ำหนักอยู่ที่ 7.58 - 7.6 กรัม
- ทองคำ 3 สลึง น้ำหนักอยู่ที่ 11.37 - 11.4 กรัม
- ทองคำ 1 บาท น้ำหนักอยู่ที่ 15.16 - 15.2 กรัม
- ทองคำ 2 บาท น้ำหนักอยู่ที่ 30.32 -30.4 กรัม
3. การตรวจสอบโดยการใช้แม่เหล็ก ทองคำแท้จะไม่ถูกแม่เหล็กดูด หากใช้แม่เหล็กแล้วดูดทองคำติดทันที นั่นแปลว่าทองคำชิ้นนั้นอาจจะถูกผสมมากับเศษเหล็กที่มีจำนวนมากหรือโลหะอื่นๆไว้ด้านใน
4. การตรวจสอบโดยการใช้เล็บจิกหรือลองกัดที่เนื้อทองคำ เนื่องจากทองคำแท้มีคุณสมบัติที่ค่อนข้างนิ่ม ทำให้สามารถเกิดรอยบุ๋มได้ง่าย เพียงแค่ใช้เล็บจิกลงไปหรือกัดที่เนื้อทองคำ หากมีรอยบุ๋มหรือมีการยุบตัวของเนื้อทองคำจะสามารถรู้ได้ทันทีว่าเป็นทองคำแท้ แต่วิธีนี้อาจจะทำให้ทองคำเสียรูปได้ แนะนำให้เป็นวิธีสุดท้ายที่จะตรวจสอบนะคะ
5. การตรวจสอบที่ขอบหรือรอยต่อของทองคำ โดยปกติทองคำแท้ จะมีสีเหลืองทองตามธรรมชาติ แต่หากเป็นทองคำปลอม สีของทองจะเกิดจากการชุบ ไม่นานก็จะเห็นการลอกของสี ให้สังเกตบริเวณขอบหรือข้อต่อให้ดี ถ้าเกิดการลอก นั่นแปลว่าทองคำปลอมแน่นอนค่ะ
6. การตรวจสอบโดยการตะไบ ทองคำแท้ หากตะไบเนื้อทองออกมาแล้ว สีข้างในจะเป็นสีเหลืองทองธรรมชาติ แต่หากตะไบทองคำออกมาแล้วเป็นสีอื่น ให้คิดไว้เลยค่ะ เป็นทองปลอมหรือทองชุบแน่ๆ (วิธีนี้อาจทำให้เสียน้ำหนักทองได้)
7. การตรวจสอบด้วยน้ำกรดไนตริก เมื่อหยดน้ำกรดไนตริกลงที่ทองคำแล้ว หากไม่มีการเกิดปฏิกิริยา ไม่เปลี่ยนสี หรือไม่มีการหลอมละลาย นั่นแปลว่า ทองคำแท้ แต่หากถ้าหยดน้ำกรดไนตริกลงไปแล้ว มีการเกิดปฏิกิริยา เปลี่ยนสี หรือละลาย ทองคำนั้นอาจมีโลหะอื่นผสมหรือเป็นของปลอมได้ค่ะ (วิธีนี้อาจตรวจสอบได้ยาก เนื่องจากน้ำกรดไนตริกหาซื้อไม่ได้ตามร้านค้าทั่วไป)
เนื่องจากทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และด้วยสถานการณ์ในประเทศตอนนี้ ไม่ว่าจะปัญหาเศรษฐกิจ หรือโรคระบาดโควิด -19 นั้น ส่งผลให้ราคาทองคำผันผวนเป็นอย่างมาก อาจทำให้เกิดช่องโหว่แก่มิจฉาชีพที่ออกมาฉวยโอกาสได้ในหลายรูปแบบ และการลงทุนในทองคำ ยังคงมีความเสี่ยง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพนั้น เราควรรู้ให้ทัน กับวิธีการตรวจสอบทองคำแท้ - ทองคำปลอม ดังนั้น ก่อนลงทุน หรือซื้อ - ขายทองคำ ควรศึกษาและตรวจสอบให้ดีก่อนนะคะ
การตรวจสอบทองคำในข้างต้นนั้น ถือเป็นการตรวจสอบเพียงเบื้องต้นหรือตรวจสอบแบบคร่าวๆเท่านั้น เพื่อเป็นการมั่นใจ สามารถปรึกษาหรือสอบถามรายละเอียดต่างๆเพิ่มเติมได้ที่หน้าร้านทองออโรร่าทุกสาขา หรือสอบถามออนไลน์ได้ที่