ในปัจจุบัน เราคงจะเห็นการลงทุนในรูปแบบใหม่ๆที่เกิดขึ้นมากมาย และสิ่งที่ไม่เคยหายไปจากโลกของการลงทุนเลย นั่นก็คือการลงทุนในทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสิ่งที่มีมูลค่ามากและเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก มีการปรับตัวขึ้นลงของราคาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งวันนี้ออโรร่าขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับประเภทของทองคำ ที่หลายคนไม่เคยรู้ว่ามีอยู่จริงและยังสามารถซื้อขายกันได้ในตลาดอีกด้วยนะคะ
ประเภททองคำ
ทองขาว ทองคำขาว หรือ White Gold
มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Platinum มีความบริสุทธิ์เป็นหน่วยกะรัต เป็นโลหะเจือของทองคำและโลหะขาวอื่นๆ เช่น แพลเลเดียมหรือนิกเกิล คุณสมบัติของทองคำขาวจะขึ้นอยู่กับโลหะและสัดส่วนการใช้ โดยส่วนมากแล้วทองคำขาวจะถูกนำมาทำเป็นเครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน กำไร เนื่องจากทองคำขาวจะมีความคงทนถาวรมากกว่าทองธรรมดานั่นเอง
ทองคำเขียว หรือ Green Gold
ลักษณะภายนอกที่ดูแล้วก็เหมือนทองธรรมดาทั่วๆไป หากมองด้วยตาเปล่าจะมองไม่เห็นถึงความที่เป็นสีเขียวตามชื่อของมัน เนื่องจากทองคำชนิดนี้ถือเป็นโลหะเจือที่สร้างโดยการดึงเอาทองแดงออกไป ให้เหลือไว้เพียงแค่ทองคำและเงิน จึงทำให้ดูออกเป็นสีเหลืองเขียวๆ ซะมากกว่า และโดยทั่วไปทองเขียว 18 กะรัต จะประกอบไปด้วยค่าทองคำ 75% เงิน 25% แต่วิธีทำทองคำเขียว มักจะถูกนำไปตกแต่งหรือดัดแปลงโดยใช้วิธีลงยาทองเป็นหลัก
ทองคำชมพู ทองคำแดง ทองคำสีกุหลาบ หรือ Rose Gold
จะมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า นาก เป็นโลหะเจือระหว่างทองคำและทองแดง โดยส่วนมากแล้ว นาก จะถูกนิยมนำไปทำเป็นเครื่องประดับและยังเคยเป็นที่นิยมกันมากในรัสเซีย
ทองคำดำ หรือ Black Gold
เป็นทองที่เกิดจากการสร้างขึ้น ซึ่งจะไม่มีอยู่เองตามธรรมชาติ เนื่องจากมีการนำมาทำให้เกิดเป็นสีดำ สามารถทำได้อยู่หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการชุบโลหะด้วยไฟฟ้า หรือใช้โรเดียมดำหรือรูทีเนียม และทองคำในรูปแบบนี้จะไม่ค่อยเห็นกันในปัจจุบันสักเท่าไหร่ โดยส่วนมากแล้วทองคำดำจะนิยมใช้กันในเครื่องเพชรพลอยนั่นเองค่ะ
ทองคำเทา หรือ Grey Gold
ส่วนมากนิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับต่างๆ เป็นทองคำโลหะเจือที่ถูกสร้างโดยการผสมแมงกานีส เงิน และทองคำแดงเข้าด้วยกัน แต่จะมีการใส่ส่วนผสมเข้าไปตามสัดส่วน เพื่อให้ออกมาเป็นสีเทา
ทองคำม่วง หรือ Purple Gold
จะใช้เป็นตัวเรือนแทนการใช้อัญมณีมากกว่าการใช้เป็นตัวเรือนในเครื่องประดับ เนื่องจากทองคำม่วง มีคุณสมบัติที่เปราะกว่าโลหะเจือทองคำชนิดอื่นๆ จึงทำให้เกิดความเสียหายได้ง่าย โดยทองคำม่วงจะเป็นโลหะเจือของทองคำและอลูมิเนียม ที่ประกอบด้วยทองประมาณ 79% จึงสามารถเรียกเป็นทอง 18 กะรัตได้เช่นกันค่ะ
ทองคำฟ้า หรือ Blue Gold
มักจะนิยมนำไปใช้ในงานประเภทเครื่องประดับมากกว่าทำเป็นรูปทรงโดยตรง เนื่องจากทองคำฟ้า เป็นโลหะเจือที่คล้ายกับทองคำม่วง จะมีความเปราะบางเช่นเดียวกัน แต่มีความแตกต่างกันตรงที่ทองคำฟ้า จะเกิดจากการผสมระหว่างทองคำและอินเดียม
ทองเหลือง (Brass) และทองสัมฤทธิ์ (Bronze)
มักถูกนิยมนำไปประสมกับส่วนชิ้นงานอื่นๆ ตามที่ช่างต้องการ ทองชนิดนี้จะไม่มีส่วนผสมของทองคำใดๆ เนื่องจากทองเหลือง เป็นโลหะที่ใช้ทองแดงเป็นปัจจัยหลัก อีกทั้งยังเป็นโลหะผสมทองแดงและนิกเกิล หรือ โลหะทองแดงผสมกับอลูมิเนียมด้วย
ทองสัมฤทธิ์
มักถูกนิยมนำไปใช้ทำเป็นชิ้นส่วนของเครื่องจักร และในงานอุตสาหกรรม เป็นทองที่ไม่มีผลต่อการซื้อขายในตลาด เนื่องจากทองสัมฤทธิ์เป็นโลหะที่ผสมกับทองแดงและดีบุก ซึ่งทองสัมฤทธิ์บางชนิดจะมีส่วนผสมของสังกะสีหรือตะกั่วปนอยู่ด้วย
ทองเหลือง
มักถูกนิยมนำไปทำเป็นเครื่องใช้ เครื่องประดับและทางศิลปะเท่านั้น เป็นทองที่ไม่มีผลต่อการซื้อขายในตลาดด้วยเช่นเดียวกับทองสัมฤทธิ์ เนื่องจากทองเหลืองจะทำมาจากโลหะที่ผสมระหว่างทองแดงและสังกะสีนั่นเองค่ะ
จากที่อ่านมาตั้งแต่ต้น มีทองคำประเภทไหนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนกันบ้างไหมคะ คิดไม่ถึงกันเลยใช่ไหมละคะว่าทองคำจริงๆ แล้วจะมีหลายประเภทขนาดนี้ อย่างที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันการลงทุนในทองคำมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่หากต้องการลงทุนทองคำศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนเริ่มการลงทุนนะคะ